
Cutting Through Rocks
สารคดีถ่ายทอดชีวิตของ ซาร่า ชาห์เวอร์ดี สมาชิกสภาสตรีคนแรกในหมู่บ้านชนบทของอิหร่าน ผู้ท้าทายระบอบปิตาธิปไตยและพยายามปลุกพลังในตัวเด็กสาวให้กล้าฝันถึงอิสรภาพ การศึกษา และการเลือกชีวิตของตนเอง
2019 / กำกับ : การิน โฮวานนิเซียน / ความยาว 1 ชม. 30 นาที / เรต 15+
31 มีนาคม 2018 “นิโคล ปาชินเนียน” อดีตนักข่าวและสส. ประกาศลงเฟซบุ๊กไลฟ์ว่า เขาจะเริ่มต้นการเดินเท้าประท้วงเป็นเวลา 14 วัน เพื่อยับยั้งแผนการครองอำนาจสมัยที่ 3 ของปธน. เผด็จการ แซร์ช ซาร์กซียัน แห่งอาร์เมเนียให้ได้
การประท้วงครั้งนี้ของเขาเป็นเรื่องน่าขำขันในสายตาพรรครัฐบาล ไม่มีสำนักข่าวแห่งไหนให้ความสนใจ และมีผู้คนเข้าร่วมเพียงน้อยนิดน่าผิดหวัง เพื่อนร่วมทางคนหนึ่งของเขากล่าวว่า “ประชาชนถูกทำให้เชื่อว่าตัวเองไม่มีพลัง ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงอะไรได้ พวกเขาไม่มีความหวังหรือความฝันอีกต่อไปแล้ว”
แต่แล้วสิ่งที่แสนเหลือเชื่อก็ค่อยๆ เกิดขึ้น ภายในเวลาเพียง 40 วันหลังก้าวที่หนึ่งของนิโคล ชาวอาร์เมเนียร่วมแสนคนก็ตัดสินใจลงถนนเคียงข้างเขา ปักหลักชุมนุมประท้วง ประกาศการปฏิวัติครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศ และขับไล่ซาร์กซียันออกจากสภาได้สำเร็จ!
I Am Not Alone ที่เป็นชื่อสารคดีเรื่องนี้ คือประโยคหนึ่งในบทเพลงที่นิโคลแต่งขึ้นเพื่อการประท้วง และมันก็คือประโยคที่ทุกคนเปล่งร้องร่วมกันบนถนนในวันนั้น …เพื่อยืนยันว่า เมื่อประชาชนกล้าฝันที่จะเปลี่ยนแปลง พวกเขาจะไม่โดดเดี่ยว
2019 / Director : Garin Hovannisian / 1hr 30min
The miraculous true story of how one man and a small group of followers (and a stray dog) inspire a nation to peacefully topple an all-powerful and corrupt regime in 40 days.
รางวัล (Award) :

สารคดีถ่ายทอดชีวิตของ ซาร่า ชาห์เวอร์ดี สมาชิกสภาสตรีคนแรกในหมู่บ้านชนบทของอิหร่าน ผู้ท้าทายระบอบปิตาธิปไตยและพยายามปลุกพลังในตัวเด็กสาวให้กล้าฝันถึงอิสรภาพ การศึกษา และการเลือกชีวิตของตนเอง
สารคดีลูกผสมรวบรวมเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในภาคอีสาน ดินแดนแห่งการนองเลือดและน้ำตา

ความผูกพันระหว่างต้นไม้กับมนุษย์และการเปลี่ยนผ่านของการเมืองด้านนิเวศวิทยา ถูกบอกเล่าผ่านเรื่องราวชีวิตอันสุดเข้มข้นและน่าทึ่งของ บ็อบ บราวน์ บุคคลสำคัญของชุมชน LGBTQ+ และนักต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อมผู้ยิ่งใหญ่แห่งออสเตรเลีย

ในวันที่อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ตาย เขาทิ้งหนังสือไว้มหาศาลในห้องสมุดส่วนตัวซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันความเป็นนักอ่านอย่างเข้มข้น …แต่เขาอ่านหนังสืออะไร? เนื้อหาเหล่านั้นเป็นเชื้อเพลิงหล่อเลี้ยงลัทธิฟาสซิสต์ที่ยังส่งผลกระทบต่อโลกจนถึงทุกวันนี้ได้อย่างไร

5 ปีที่แล้วในพื้นที่เวสต์แบงก์ตอนใต้ บาเซล อัดรา หนุ่มปาเลสไตน์ ได้พบกับ ยูวาล อับราฮัม นักข่าอิสราเอ …ทั้งคู่ไม่มีทางรู้เลยว่า การพบกันครั้งนั้นจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่เปลี่ยนชีวิตของพวกเขาไปตลอดกาล

ในโตเกียวอนาคต ท่ามกลางความหวาดกลัวแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เพื่อนซี้สองคนที่กำลังจะจบมัธยมปลายก่อเรื่องแกล้งครูใหญ่ จนโรงเรียนติดตั้งกล้องวงจรปิดไปทั่ว ภายใต้การเฝ้าระวังที่เข้มงวดและการเมืองที่วุ่นวาย ความแตกต่างที่ไม่เคยปรากฏระหว่างพวกเขาเริ่มปริแตก เมื่อคนหนึ่งตื่นตัวทางการเมือง ขณะที่อีกคนเลือกจะใช้ชีวิตเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เจ้าของรางวัล Cinematic Innovation จากเทศกาลหนังซันแดนซ์ ที่นำฟุตเตจจำนวนมหาศาลจากคลังมาจัดการเล่าหลากหลายเส้นเรื่องอย่างชาญฉลาด ผูกร้อยประวัติศาสตร์การเมืองโลกอันร้อนระอุในทศวรรษ 60 เข้ากับดนตรีและความรุนแรงได้อย่างเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง
กว่า 30 ปีหลังเขย่าโลกด้วยหนังเรื่อง JFK โอลิเวอร์ สโตนกลับมาชำแหละประวัติศาสตร์ฉาวนี้อีกครั้ง เพราะนี่คือปีที่เอกสารจำนวนมากที่ถูกบันทึกไว้จากการตรวจหลักฐานในที่เกิดเหตุ จากการชันสูตรศพเคนเนดี้ และจากการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องทุกคน ถึงเวลาถูกเปิดเผย!

บันทึก 10 ปีแสนอลเวงเบื้องหลังการบูรณะพิพิธภัณฑ์ศิลปะสุดยิ่งใหญ่แห่งอัมสเตอร์ดัม
“หนังเกี่ยวกับคนรุ่นใหม่ ที่ทำโดยคนรุ่นใหม่” คือนิยามและเหตุผลแห่งความพิเศษของสารคดีเรื่องนี้ ซึ่งบอกเล่าการต่อสู้บนพื้นที่ทางการเมืองของคนรุ่นใหม่ในหลายประเทศ
หนังใช้เวลาถ่ายทำกว่า 6 ปี ติดตามการเติบโตของเด็กหญิงกับแม่ผู้ลุกขึ้นเป็นแกนนำเรียกร้องค่าชดเชยจากบริษัทขุดเจาะก๊าซ ซึ่งเป็นสาเหตุของภัยพิบัติโคลนปะทุที่กลืนกินหมู่บ้าน 16 แห่งให้จมอยู่ใต้โคลน
สารคดีเปี่ยมพลังที่เดินทางไปทั่วโลกเพื่อเยี่ยมเยียนเหล่าคนหนุ่มสาวผู้ทุ่มเทแก้ไขปัญหาสังคมของตนแม้จะไม่เป็นข่าวและบางทีอาจถึงขั้นต้องเสี่ยงชีวิต พวกเขานำความแข็งแกร่งมาจากไหน? อะไรเป็นแรงจูงใจให้พวกเขาทำแบบนี้?

หลังรัฐประหารในเมียนมา ชีวิตผู้คนที่นั่นกลายเป็นเรื่องเร้นลับ กลุ่ม Myanmar Film Collective จึงก่อตั้งขึ้นโดยคนทำหนังรุ่นเยาว์ไม่เปิดเผยนาม เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของชาวเมียนมาด้วยวิธีเลือนเส้นแบ่งระหว่างความจริงกับเรื่องแต่ง

จากซูเปอร์สตาร์แห่งวงการดนตรีเทคโนป๊อป สู่สถานะเจ้าของออสการ์ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม …บทเพลงจากการประพันธ์ของ ริวอิจิ ซากาโมโตะ คือผลงานมาสเตอร์พีซ
สารคดีทรงพลังของลอร่า พอยทราส ถ่ายทอดชีวิตโลดโผนของแนน โกลดิน ช่างภาพหัวก้าวหน้าที่ลุกขึ้นต่อต้าน “ตระกูลแซ็กเลอร์” มหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งจากการขายยาแก้ปวดโอปิออยด์
ในสมรภูมิสื่อที่ครอบครองโดยผู้ชายมาช้านาน หนังสือพิมพ์และสำนักข่าวเล็ก ๆ ชื่อ “คาบาร์ลาฮารียา” ผงาดขึ้นสร้างปรากฏการณ์ใหม่อย่างอาจหาญ

เมื่อความไม่เท่าเทียมส่งผลให้ผู้คนโกรธแค้น การประท้วงและการถูกปราบปรามอย่างรุนแรงก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว แต่อะไรคือความหมายที่แท้จริงของ “ความรุนแรง” และใครกันแน่ที่มีสิทธิ์ใช้มัน?
ภายใต้นโยบายสงครามยาเสพติดของประธานาธิบดี โรดรีโก ดูแตร์เต ฟิลิปปินส์ต้องพบเห็นการล่าสังหารชาย หญิง และเด็กกว่า 20,000 คน คำถามในใจของพวกเขาคือ เหตุใดจึงมีแต่คนยากจนและผู้ใช้ยาเสพติดที่ถูกข่มขู่คุกคามและฆาตกรรม?
ปี 2034 ภูมิภาคอุษาคเนย์ตกอยู่ในความมืดมิด เหล่าผู้มีอำนาจเข้ายึดครองประเทศและพื้นที่ของคนกลุ่มน้อย หายนะจากโรคระบาดแผ่ขยายไปทั่วทวีป ผู้คนนับล้านต้องตาย และอีกมหาศาลที่ได้แต่ก้มหน้าเผชิญชะตากรรมครั้งนี้อย่างสิ้นหวัง
มิตรภาพประหลาดก่อตัวขึ้นระหว่างอาสาสมัครกองทัพสาธารณรัฐไอร์แลนด์ (ไออาร์เอ) กับ ทหารอังกฤษ หลังจากฝ่ายหลังถูกอีกหนึ่งสมาชิกไออาร์เอหลอกล่อลักพาตัวมาและฝ่ายแรกได้รับมอบหมายให้คอยเฝ้าดู ทว่าการลักพาตัวครั้งนี้ลงเอยอย่างผิดพลาดเลวร้าย

หนังเดือดพล่านที่ไมเคิล มัวร์ค้นหาคำตอบว่า อเมริกามาถึงจุดที่เลือกโดนัลด์ ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีได้อย่างไร และด้วยวิธีไหนจึงจะหลุดพ้นจากยุคสมัยดำมืดนี้ไปได้?

อิเมลดา มาร์กอส เป็นอดีตสตรีหมายเลขหนึ่งของฟิลิปปินส์คือผู้ทรงอิทธิพลทางการเมือง และโด่งดังจากวิถีชีวิตหรูหรา สารคดีพาเราสำรวจความอื้อฉาวในตำนานของเธอ
เมื่อผู้กำกับหนังหญิงพานักเคลื่อนไหวทางการเมืองในเหตุการณ์ 6 ตุลา กลับไปย้อนรำลึกถึงฝันร้ายนั้น ประกอบสร้างเป็นการพร่าเลือนเรื่องแต่ง เรื่องจริง และความทรงจำของประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้รับการบันทึก

“วิเวียน เวสต์วูด” โด่งดังก้องโลกในฐานะเจ้าแม่แฟชั่นพังค์ ผู้สุดจะแหกคอกตั้งแต่ด้านงานดีไซน์ ไปยันทัศนคติการใช้ชีวิต และการเป็นแอ็กติวิสต์ตัวเจ็บ แต่นี่คือหนังเรื่องแรกที่จะบอกเล่าการต่อสู้ทุกด้านอย่างแท้จริง ของหนึ่งในไอค่อนผู้ทรงอิทธิพลแห่งยุคสมัยคนนี้!

สนุกสุดพลังกับ ไมเคิล มัวร์ ที่อาสาออกสำรวจโลกว่า “ประเทศที่ดีๆ” พัฒนาชีวิตผู้คนกันอย่างไร