“ตอนที่หนังเรื่องนี้เปิดกล้อง ผมกำลังอยู่ในจุดสูงสุดของการเป็นนักแสดงตลกพอดี แต่ผมรู้ดีว่าอาชีพนี้อาจใช้หากินได้ไม่นานนัก ผมเลยอยากหาอย่างอื่นที่แตกต่างออกไปทำบ้าง” คิตาโน่เล่า “ตอนนั้นแหละที่ผู้กำกับ นางิสะ โอชิม่า ส่งบทหนัง Mr. Lawrence มาให้ และทั้งที่ผมไม่เคยเล่นหนังเป็นเรื่องเป็นราวด้วยซ้ำ ผมก็ตอบเขาไปว่า ‘ตกลงครับ บทสุดยอดมาก’ เพราะผมอยากให้คนดูช็อคตาตั้งที่เห็นดาราตลกบ้าๆ แบบผมมาเล่นบทนี้”
และนั่นคือการปรากฏตัวเป็นครั้งแรกในฐานะนักแสดงอาชีพของคิตาโน่ กับบททหารเจ้าของประโยคเลือดเย็นที่ว่า “นายไม่มีทางรู้จักญี่ปุ่นจริงๆ หรอก ถ้าไม่ได้เห็นการเซ็ปปุกุ” (ซึ่งเป็นประโยคที่ทิ่มแทงฝ่ายขวาชาวญี่ปุ่นอย่างจังตอนหนังฉาย) รวมทั้งเป็นผู้กล่าวประโยคคลาสสิกอันเป็นชื่อหนัง ที่ว่า “สุขสันต์วันคริสต์มาสนะ คุณลอเรนซ์”
โอชิม่าเล่าเหตุผลที่ชวนคิตาโน่มาพลิกบทบาทว่า “ผมอยากหาคนหน้าใหม่ๆ จากวงการอื่นๆ มาอยู่ในหนัง (ซึ่งก็คือเหตุผลเดียวกับที่เขาชวน เดวิด โบวี่ และ ริวอิจิ ซากาโมโตะ มารับบทนำ) ผมเชื่อว่าเขามีเซนส์ของการแสดงอยู่ในตัวเพราะเคยร่วมงานกันมาแล้วทางรายการวาไรตี้ทีวี ผมเคยเปรยถามเขาว่าสนใจเล่นหนังไหม เขาตอบเขินๆ ว่าสนใจ ผมเลยตั้งใจว่าจะต้องมอบบทที่ไม่ใช่แค่ตัวประกอบให้ และต้องไม่ใช่บทตลกด้วย
“ผมเห็นด้านมืดบางอย่างในตัวทาเคชิแม้เวลาที่เขากำลังเล่นตลกอยู่ก็ตาม นี่คือเหตุผลที่ผมชวนเขามารับบทฮาระ ผมสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างพิเศษในตัวเขา แบบที่คนทั่วไปไม่มี”
และสัมผัสของโอชิม่าก็ถูกต้อง เพราะบทนี้ทำให้คิตาโน่คว้ารางวัล Mainichi Film Concours สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมไปครอง ทั้งยังเปิดทางให้เขามองเห็นโอกาสใหม่ๆ ในวงการหนัง ก่อนก้าวมาเป็นนักแสดงและผู้กำกับชื่อดังของโลกในที่สุด!
subscribe to newsletter to stay up to date with our films & events