
Cutting Through Rocks
สารคดีถ่ายทอดชีวิตของ ซาร่า ชาห์เวอร์ดี สมาชิกสภาสตรีคนแรกในหมู่บ้านชนบทของอิหร่าน ผู้ท้าทายระบอบปิตาธิปไตยและพยายามปลุกพลังในตัวเด็กสาวให้กล้าฝันถึงอิสรภาพ การศึกษา และการเลือกชีวิตของตนเอง

สารคดีถ่ายทอดชีวิตของ ซาร่า ชาห์เวอร์ดี สมาชิกสภาสตรีคนแรกในหมู่บ้านชนบทของอิหร่าน ผู้ท้าทายระบอบปิตาธิปไตยและพยายามปลุกพลังในตัวเด็กสาวให้กล้าฝันถึงอิสรภาพ การศึกษา และการเลือกชีวิตของตนเอง

ในแวดวงอาชีพด้าน STEM ของสหรัฐอเมริกา มีบุคลากรผู้หญิงอยู่ไม่ถึง 1 ใน 4 และมีผู้หญิงผิวดำแค่ 1 ใน 10 แม้แต่ในวงการวิทยาศาสตร์ที่ยึดถือ ‘ความเป็นกลาง’ เป็นหัวใจสำคัญ ก็ยังเต็มไปด้วยอคติที่ฝังรากลึกมายาวนานนับร้อยปี
สารคดีที่นักข่าวสาว “ชิโอริ อิโตะ” บันทึกความเจ็บปวดและการต่อสู้ของเธอเอง หลังจากเธอช็อกคนทั้งประเทศญี่ปุ่นด้วยการเปิดเผยว่าเธอถูกข่มขืนโดยนักข่าวรุ่นใหญ่ผู้ทรงอิทธิพล และสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เธอไม่มีทางเลือกนอกจากเปิดหน้าสู้เพื่อผลักดันให้ญี่ปุ่นเปลี่ยนแปลงกฎหมายเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศอันล้าสมัย
ในบ่อโคลน ร่างหญิงสาวคนหนึ่งนอนแน่นิ่งท่ามกลางความเหน็บหนาวอยู่ตรงนั้น ไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นใครมาจากไหน อะไรทำให้เธอต้องมาจบชีวิตลงอย่างโดดเดี่ยวตรงนี้?
แม้เกาหลีใต้จะมีภาพลักษณ์เป็นสังคมร่ำรวยและทันสมัย แต่ยังคงถือเป็นเรื่องน่าอับอายอย่างรุนแรงหากผู้หญิงตั้งท้องโดยยังไม่ได้แต่งงาน นั่นเป็นเหตุผลให้เด็กสาวจำนวนมากต้องออกจากระบบการศึกษาและถูกส่งตัวไปอยู่ในศูนย์พักพิงเพื่อปิดบังการตั้งครรภ์ไว้เป็นความลับไม่ให้เพื่อนฝูงญาติมิตรรู้
สำหรับผู้หญิงจำนวนมากในฟิลิปปินส์ การไปทำงานเป็นคนรับใช้ในต่างประเทศคือทางออกของชีวิตที่ขัดสน และในอันจะบรรลุซึ่งเป้าหมายนั้น พวกเธอจะต้องทุ่มเทให้แก่การฝึกฝนใน “โรงเรียนแม่บ้าน” ซึ่งมีอยู่อย่างแพร่หลายในประเทศ
“ดี้” เป็นเด็กหญิงอายุ 12 ปีและเป็นชาวม้งที่ผู้หญิงต้องแต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อย แม่ของเธอ ตัวเธอ และผู้หญิงรอบข้างต่างต้องทนกับประเพณี “ลักพาตัวเจ้าสาว” อันอื้อฉาว
สารคดีติดตามการเติบโตของเด็กสาวในบังกลาเทศที่เข้าร่วมทีมเซิร์ฟท้องถิ่น ด้วยความฝันถึงเสรีภาพและการหลุดพ้นจากชีวิตประจำวันอันเต็มไปด้วยความรุนแรง
ณ ศาลเมืองแซ็งโตแมร์ นักเขียนหญิงเดินทางไปสังเกตการณ์คดีหญิงสาวที่ถูกจับข้อหาฆ่าลูกสาววัย 15 เดือนของตน แต่ยิ่งการพิจารณาคดีดำเนินไป ความเชื่อของเธอและเราทุกคนกลับยิ่งสั่นคลอน
ในสมรภูมิสื่อที่ครอบครองโดยผู้ชายมาช้านาน หนังสือพิมพ์และสำนักข่าวเล็ก ๆ ชื่อ “คาบาร์ลาฮารียา” ผงาดขึ้นสร้างปรากฏการณ์ใหม่อย่างอาจหาญ
จูลี่สูญเสียสามีผู้เป็นคอมโพสเซอร์ชื่อดังไปในอุบัติเหตุรถชนพร้อมลูกสาววัย 5 ขวบ เธอพยายามเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งด้วยจิตใจที่โศกเศร้าและพังทลาย
“วาล็องทีน” นักศึกษาและนางแบบสาวผู้กำลังว้าวุ่นกับความรักที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ขับรถชนหมาตัวหนึ่งโดยไม่ตั้งใจ การช่วยเหลือมันไว้ชักพาให้เธอไปเกี่ยวพันกับผู้พิพากษาชราซึ่งใช้วันเวลาบั้นปลายชีวิตอย่างขมขื่น

นักศึกษาสาวที่ทำงานพิเศษเป็นหญิงขายบริการ คู่หมั้นขี้หึงของเธอ และชายชราผู้เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย เรื่องราวความสัมพันธ์ของคนทั้งสามที่ก่อตัวขึ้นจากการพบกันเพียงชั่วข้ามคืน

ย้อนประวัติศาสตร์ไปตื่นตะลึงกับชัยชนะระดับปรากฏการณ์โลกของทีมวอลเลย์บอลหญิงญี่ปุ่น เจ้าของฉายา “แม่มดแห่งตะวันออก”
บันทึกการสนทนาของนักแสดงหญิงรุ่นลายครามของอังกฤษทั้ง 4 คนซึ่งได้รับยศ “คุณหญิง” จากสมเด็จพระราชินีฯ อันได้แก่ ไอลีน แอตกินส์, จูดี เดนช์, โจน พลาวไรต์ และแม็กกี สมิธ โดยผู้กำกับโรเจอร์ มิเชลล์ (Notting Hill)
เอริกาเป็นครูสอนเปียโน อายุ 40 กว่าและยังอยู่บ้านเดียวกับแม่ วิธีหนีอิทธิพลของแม่คือการเข้าโรงหนังโป๊ จนวันหนึ่งทุกสิ่งก็เปลี่ยนไปเมื่อชายหนุ่มคนนี้ปรากฏตัวขึ้น…
นี่คือ 3 เรื่องราวความสัมพันธ์อันสลับซับซ้อนของมนุษย์ที่ถูกบอกเล่าผ่าน “เหตุบังเอิญ” ซึ่งดูเหมือนจะดำเนินไปตามลิขิตแห่งโชคชะตา ในหลายชีวิตที่ล้วนเกี่ยวข้องกับ “ตัวตน” และ “ความรัก”
หนังเกี่ยวกับคืนที่รายการเรียลลิตี้ไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปรายการหนึ่งออกอากาศเป็นตอนสุดท้าย แล้วในคืนนั้นเองหลังจากห้าทุ่มห้าสิบเก้าเวลาก็เพิ่มขึ้นมากลายเป็นห้าทุ่มหกสิบหกสิบเอ็ดหกสิบสองไปเรื่อยๆ ไม่ยอมถึงเที่ยงคืน