Nothing Like a Dame
บันทึกการสนทนาของนักแสดงหญิงรุ่นลายครามของอังกฤษทั้ง 4 คนซึ่งได้รับยศ “คุณหญิง” จากสมเด็จพระราชินีฯ อันได้แก่ ไอลีน แอตกินส์, จูดี เดนช์, โจน พลาวไรต์ และแม็กกี สมิธ โดยผู้กำกับโรเจอร์ มิเชลล์ (Notting Hill)
สถาพร ครูวรรณคดีผู้ติดอยู่กับพันธะและความจริงที่ว่าสิรินาถ ภรรยาของเขาตั้งครรภ์ ทำให้ไม่สามารถมีเซ็กส์ได้ตามต้องการ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าสถาพรเลือกทิ้งภรรยาไว้ หนีออกมาจากชีวิตเก่า และได้พบกับเส้นทางสู่ “กรุงเกลือ” เมืองแห่งสรวงสวรรค์ในวรรณคดีที่เกิดขึ้นจริง ในระหว่างการเดินทางของเขา…
Sathaporn, a literature teacher, is joined by the bond and needs to accept the truth that Sirinarth, his pregnant wife, cannot have sex as much as he desires. What will happen if he decides to leave his lover behind, escape his old life and accidentally find the path to Krungkluea, a heaven in the literature, which becomes realistic during his journey.
DIRECTOR STATEMENT
แน่นอนว่าแรงบันดาลใจของภาพยนตร์เรื่องนี้มาจากหลากหลายองค์ประกอบ ทั้งภาพความฝันอันเลือนลาง, ศิลปะวัฒนธรรมแบบไทยๆ, เรื่องราวของเพื่อนๆ ที่ถูกนำมาปะติดปะต่อกัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ กระแสสังคม “Me too” ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันกับที่บทภาพยนตร์ “นิราศกรุงเกลือ” ถูกเขียน
ด้วยเหตุนี้เอง ความทรงจำในอดีตจึงถูกดึงกลับมาอีกครั้ง ทั้งที่มันควรจะอยู่ในจุดที่ลึกที่สุด ซึ่งสำหรับผม แม้ว่ามันจะไม่ใช่ความทรงจำที่ดี แต่การได้สะท้อนเรื่องราวเหล่านั้นลงบนภาพยนตร์ “สิ่งที่ผมรักที่สุด” มันก็คุ้มค่าที่จะลองทำ!
นี่จึงเป็นที่มาของ “นิราศกรุงเกลือ” / Me too ในแบบฉบับของผม ซึ่งเต็มไปด้วยบทบาทของ “ผู้กระทำ” และ “ผู้ถูกกระทำ” อันเป็นปัจจัยสำคัญของ “การคุกคามทางเพศ” ที่ส่งผลกระทบต่อใครหลายๆ คน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นปัญหาที่ไม่สามารถละเลยหรือมองข้ามได้ แม้จะมั่นใจมากๆ ว่า เราแก้ไขอะไรไม่ได้เลยก็ตาม แต่ลึกๆ สิ่งที่ผมอยากจะทำก็คือ ระบายความในใจออกมา… เท่านั้นเอง
ท้ายที่สุด ขอขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันฝ่าอุปสรรคด้วยกันมาจนถึงวันนี้ ขอบคุณคนที่รักที่คอยอยู่เคียงข้างกัน และขอโทษด้วยที่ไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ฟังเร็วกว่านี้
– ณัฐนันท์ (กัญจน์) เทียมเมฆ ผู้กำกับ
บันทึกการสนทนาของนักแสดงหญิงรุ่นลายครามของอังกฤษทั้ง 4 คนซึ่งได้รับยศ “คุณหญิง” จากสมเด็จพระราชินีฯ อันได้แก่ ไอลีน แอตกินส์, จูดี เดนช์, โจน พลาวไรต์ และแม็กกี สมิธ โดยผู้กำกับโรเจอร์ มิเชลล์ (Notting Hill)
ออกเดินทางพานพบผู้คนแปลกประหลาด ความโศกซึมและตลกร้ายผสมผสานอยู่ในเหตุการณ์ที่ดูเหมือนไม่ปะติดปะต่อกัน แต่แท้จริงล้วนคือเรื่องราวของความเปราะบางในสิ่งที่เรียกว่า “ชีวิต”
Happyend เป็นหนังวัยรุ่นที่ถ่ายทอดเรื่องราวของมิตรภาพและการเติบโต บนฉากหลังของสังคมยุคใกล้อนาคตที่กำลังจะล่มสลาย ท่ามกลางการแผ่ขยายของความเกลียดชังทางการเมือง อะไรทำให้ “นีโอ โซระ” คิดเรื่องราวเช่นนี้-แบบที่หาดูได้ไม่ง่ายเลยในหนังวัยรุ่นญี่ปุ่น-ออกมาได้ ซ้ำยังทำมันได้อย่างงดงามเหลือเกิน …บ่ายวันหนึ่งขณะที่เขาเดินทางมาเยือนกรุงเทพฯ เราไปพูดคุยกับเขาเพื่อค้นหาคำตอบ

บันทึกภาพเหตุการณ์ภายในโรงพยาบาลศิริราช ในวันที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จสวรรคต (13 ตุลาคม 2016)

สารคดีภาคต่อของ Herb & Dorothy ที่ติดตามการบริจาคงานศิลปะกว่า 2,500 ชิ้นในคอลเล็กชันสะสมของ เฮิร์บ กับ โดโรธี โวเกล ไปยังพิพิธภัณฑ์ 11 แห่งทั่วสหรัฐฯ

หนังสารคดีเป็นสื่อที่มีพลังอำนาจในการถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของผู้คน แต่พลังอันยิ่งใหญ่ก็ต้องมาพร้อมความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง คนทำสารคดีจะทำอย่างไรไม่ให้การเล่าเรื่องนั้นกลายเป็นการทำให้พวกเขาตกเป็นฝ่ายถูกจ้องมองด้วยความเวทนาสงสาร ไร้อำนาจ และเป็นแค่ ‘เหยื่อ’ อยู่ตลอดเวลา?

สำรวจความร่วมมือกันฉ้อฉลของรัฐบาลและองค์กรสื่อขนาดใหญ่ ในสายตานักคิด โนม ชอมสกี

นักเรียนมัธยมปลายถูกโรงเรียนส่งไปฝึกงานเพื่อแลกกับประสบการณ์การทำงาน “ในโลกแห่งความเป็นจริง” …สามเดือนต่อมา เธอฆ่าตัวตาย และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการสืบสวนตีแผ่สภาพแวดล้อมการทำงานที่โหดร้ายในสังคมเกาหลีใต้