‘เด็กหญิงนาปาล์ม’ โต้กลับ ยืนยัน ‘นิค อึ๊ต’ ช่างภาพตัวจริง เตรียมฟ้องทีมสารคดี The Stringer
DOC NEWS กลายเป็นมหากาพย์
“ผมไม่ใช่นิโกร
ผมเป็นมนุษย์
หากคุณเห็นผมเป็นนิโกร
ก็เพราะคุณต้องการให้ผมเป็นอย่างนั้น
…และคุณต้องหาคำตอบเองให้พบว่ามันเป็นเพราะอะไร”
– เจมส์ บาลด์วิน
จากต้นฉบับหนังสือ 30 หน้าที่ เจมส์ บาลด์วิน กวี นักเขียน และนักต่อสู้ชาวอเมริกันผิวสีขึ้นต้นไว้และไม่เคยมีโอกาสเขียนให้เสร็จสิ้น สู่หนังสารคดีทรงพลังรุนแรงที่สุดเรื่องหนึ่งของปีที่ “จดหมายบันทึกความทรงจำถึงบ้านเกิดเมืองนอนที่ผมทั้งรักทั้งชัง” ดังกล่าว ถูกนำมาถ่ายทอดด้วยเสียงของแซมวล แอล แจ็คสัน และภาพฟุตเตจประวัติศาสตร์ช่วงสำคัญตลอดระยะเวลาการต่อสู้เพื่อเสรีภาพของ มาร์ติน ลูเธอร์ คิง, มัลคอล์ม เอ็กซ์ และเม็ดการ์ เอเวอร์ส ก่อนที่พวกเขาทั้งสามจะต้องจบชีวิตลงด้วยการถูกลอบสังหาร
In 1979, James Baldwin wrote a letter to his literary agent describing his next project, “Remember This House.” The book was to be a revolutionary, personal account of the lives and assassinations of three of his close friends: Medgar Evers, Malcolm X and Martin Luther King, Jr. At the time of Baldwin’s death in 1987, he left behind only 30 completed pages of this manuscript. Filmmaker Raoul Peck envisions the book James Baldwin never finished.
DOC NEWS กลายเป็นมหากาพย์
ในสมรภูมิสื่อที่ครอบครองโดยผู้ชายมาช้านาน หนังสือพิมพ์และสำนักข่าวเล็ก ๆ ชื่อ “คาบาร์ลาฮารียา” ผงาดขึ้นสร้างปรากฏการณ์ใหม่อย่างอาจหาญ
เจ้าของรางวัล Cinematic Innovation จากเทศกาลหนังซันแดนซ์ ที่นำฟุตเตจจำนวนมหาศาลจากคลังมาจัดการเล่าหลากหลายเส้นเรื่องอย่างชาญฉลาด ผูกร้อยประวัติศาสตร์การเมืองโลกอันร้อนระอุในทศวรรษ 60 เข้ากับดนตรีและความรุนแรงได้อย่างเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง

ย้อนประวัติศาสตร์ไปตื่นตะลึงกับชัยชนะระดับปรากฏการณ์โลกของทีมวอลเลย์บอลหญิงญี่ปุ่น เจ้าของฉายา “แม่มดแห่งตะวันออก”

DOC NEWS 5 วันที่แล้ว เรา
50% ของประชากรโลกอาศัยอยู่ใน “เมือง” และจะเพิ่มเป็นถึง 80% ภายในปี 2050 แต่เราพัฒนาเมืองให้เหมาะสมกับมนุษย์จริงหรือ?
ภาพถ่ายฟิล์มกระจกจากโรมาเนียทศวรรษ 1930-1940 ถูกร้อยเรียงเข้ากับเสียงอ่านไดอารี่ส่วนตัวของแพทย์ชาวยิว กลายเป็นสารคดีความเรียงที่ “บอกเล่าสิ่งที่ภาพถ่ายไม่ได้เล่า”
สี่สหายกลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อสานฝันในการสร้างวงการหนังซูดาน หลังจากที่ทุกอย่างหยุดชะงักเนื่องจากการรัฐประหาร พวกเขาพยายามฟื้นคืนชีพให้แก่โรงหนังร้าง …แต่ฝันนี้จะเป็นจริงได้ไหมในสังคมที่ไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่เรียกว่าภาพยนตร์
Documentary Club is a group of film lovers dedicated to creating diverse spaces in Thailand for alternative films, especially documentaries. We do this by distributing films through various channels, organizing film screenings, hosting film festivals, and arranging discussion forums, in collaboration with partners from both the film industry and social sectors across the country.
Movies Matter Co.,Ltd.
Bangkok, Thailand