แต่แน่นอนว่า ผู้กำกับคู่บุญตัวจริงของซงก็คือ บงจุนโฮ ซึ่งร่วมงานกับเขามาแล้วถึง 4 เรื่อง (Memories of Murder, The Host, Snowpiercer, Parasite)
“ซงคังโฮเป็นอัจฉริยะ แม้จะต้องพูดตามบทและแสดงตามบล็อคกิ้งที่ผมวางไว้ แต่เขาก็ยังปลดปล่อยสิ่งที่คาดไม่ถึงได้ทุกเทค ให้ความรู้สึกเหมือนเพิ่งประสบกับสถานการณ์นั้นๆ เป็นครั้งแรกเสมอ …มหัศจรรย์สุดๆ” บงกล่าวชื่นชม
เมื่อถามซงคังโฮว่า อะไรคือเคล็ดลับการทำงานของเขา เขาตอบว่า
“ผมคิดว่าไม่มีศิลปินคนไหนอยากทำอะไรที่คาดเดาได้ง่าย หรือทำแต่สิ่งที่มีคนอื่นทำกันมาแล้ว ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่คาดเดาง่ายก็คือการใช้นักแสดงหน้าตาหล่อบุคลิกเท่น่ะครับ ผมไม่ใช่คนหล่อคนเท่จึงเหมาะกับคนทำหนังที่ต้องการเล่าเรื่องของคนธรรมดา – หรือพูดอีกอย่างว่า คนที่ดูผิวเผินเหมือนธรรมดา แต่แท้จริงแล้วกำลังต่อสู้กับความเลวร้ายสาหัสอยู่
“ในฐานะนักแสดงก็เช่นกัน เราพอจะรู้ว่าผู้กำกับคาดหวังอะไร แต่การทำตามความคาดหวังน่ะไม่สนุกหรอก การที่นักแสดงทำสิ่งที่คาดไม่ถึงต่างหากที่ผู้กำกับเหล่านั้นต้องการ ผมทำแบบนี้แหละตลอดชีวิตการแสดง 20 กว่าปีของผม”
และเมื่อถามทัศนะของเขาว่า เขาคิดว่าเพราะอะไรหนังเกาหลีใต้จึงประสบความสำเร็จในระดับโลก อะไรคือจุดเด่นสำคัญ ซงคังโฮตอบไว้น่านสนใจอย่างยิ่งว่า
“เราเป็นประเทศเล็กมากๆ แต่มีประวัติศาสตร์ทุกข์ทรมานยาวนาน ชนชาติเกาหลีไม่เคยมีชีวิตง่าย เราถูกบุกถูกคุกคามหลายต่อหลายครั้ง และเราก็เป็นประเทศที่ถูกแบ่งแยก เกาหลียังคงเต็มไปด้วยความวุ่นวายทั้งทางการเมือง สังคม และวัฒนธรรมจนถึงทุกวันนี้ ถ้าเราไม่ทุ่มเททุกสิ่งอย่างจริงจัง มันก็ไม่ง่ายเลยที่จะมีชีวิตรอด
“ตลอดประวัติศาสตร์ 5,000 ปีของเรา เราต้องต่อสู้กับสารพัดอุปสรรค และในการฝ่าฟันเอาชนะมันก็ทำให้เรากลายเป็นประชาชนที่เข้มแข็งขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้เองที่กลายเป็นแหล่งพลังงานและทรัพยากรสำหรับศิลปิน และก็เป็นเหตุผลว่าเพราะอะไรหนังจากประเทศเล็กๆ อย่างเกาหลีจึงสามารถส่งผลกระทบต่อวงการหนังโลกได้
จริงอยู่ครับที่เราจำเป็นต้องอาศัยผู้กำกับยอดฝีมืออย่างบงจุนโฮ, อีชางดง หรือพัคชานวุกด้วย แต่ฐานที่แท้จริงของผลงานของพวกเขาก็คือประวัติศาสตร์ชาติเรานี่แหละ”
Movies Matter Co.,Ltd / THAILAND
© All Rights Reserved 2024
subscribe to newsletter to stay up to date with our films & events