
“แพะ” และ “ฆาตกรตัวจริง” : เบื้องหลังคดีสยองขวัญใน Memories of Murder
“ตำรวจไม่เพียงติดค้างคำขอโทษต่อผม พวกเขายังติดค้างคำขอโทษต่อประชาชนเกาหลีใต้ทุกคนด้วย” คือคำกล่าวของ “ยูน” ผู้กลายเป็นแพะในคดีฆาตกรรมฮวาซ็องทั้งที่เป็นผู้บริสุทธิ์!
หนังคลาสสิกขึ้นหิ้งขวัญใจคนดูหนังทั่วโลก ผลงานกำกับปี 2003 ของ บงจุนโฮ (เจ้าของรางวัลออสการ์จาก Parasite)
สร้างจากเหตุการณ์ฆาตกรรมสะเทือนขวัญช่วงปี 1986 – 1991 ณ เมืองเล็กๆ นอกกรุงโซล เมื่อผู้หญิง 10 คนซึ่งมีตั้งแต่เด็กนักเรียนวัย 13 ปีถึงคุณยายวัย 71 ปี ถูกข่มขืนและสังหารอย่างเหี้ยมโหดภายในขอบเขตพื้นที่รัศมีเพียง 2 กิโลเมตร ด้วยฝีมือของ “ฆาตกรต่อเนื่องคนแรกของเกาหลี”
ไม่เพียงตัวเหตุการณ์ที่วิปริต แต่สิ่งที่สร้างความสยดสยองแก่ผู้คนไม่น้อยกว่ากันก็คือ การที่ฆาตกรไม่ทิ้งร่องรอยหลักฐานอะไรไว้เลย มันจึงกลายเป็นคดีปริศนาที่ต้องใช้ตำรวจรวมกว่า 3 แสนนายในการสืบหาเบาะแสอย่างสับสนวุ่นวาย มีผู้ต้องสงสัยถูกสอบสวนกว่า 3 พันคน …แต่ไม่เคยมีการจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้เลยแม้แต่คนเดียว!
Memories of Murder นำเสนอเหตุการณ์พิลึกพิลั่นนี้ทาบทับลงบนภาพของสังคมเกาหลีใต้ใน “ยุคสมัยแห่งความไร้เดียงสาและความเพิกเฉย” ผ่านเรื่องของตำรวจสองนายที่ได้รับมอบหมายให้คลี่คลายคดีดังกล่าวโดยไร้ซึ่งความสนับสนุนช่วยเหลือ มีเพียงการสืบสวนและการดั้นด้นค้นหาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเท่านั้นเป็นเครื่องมือ พวกเขาต้องเผชิญหน้าตามลำพังกับโชคร้ายเกินคาดและความโหดร้ายเกินจินตนาการ โดยไม่อาจคาดเดาได้ว่าภารกิจแห่งฝันร้ายนี้จะลงเอยอย่างไร
This is a true story.
1986 to 1991.
In a small town outside Seoul, over the course of six years 10 women were raped and murdered in a 2km radius. Korean society’s first serial killer took the lives of 10 victims, ranging from a 71 year-old grandmother to a 13 year old schoolgirl.
Other than the victims, the killer left not a single shred of evidence. Over 3,000 suspects were interrogated. At least 300,000 police took part in the massive investigation. But not a single person was indicted for the crimes.
In this age of ignorance, two detectives at the bottom of an ill-supported police force,
Have only themselves to rely on to face this horrific series of events. The film reminisces about a time of innocence when the inability to comprehend such heinous acts led to unbelievable mishaps and harrowing nightmares.
รางวัล
“ตำรวจไม่เพียงติดค้างคำขอโทษต่อผม พวกเขายังติดค้างคำขอโทษต่อประชาชนเกาหลีใต้ทุกคนด้วย” คือคำกล่าวของ “ยูน” ผู้กลายเป็นแพะในคดีฆาตกรรมฮวาซ็องทั้งที่เป็นผู้บริสุทธิ์!
“หนังของผมมักมีฉากรุนแรงจะแจ้ง เพราะความรุนแรงซึมซาบอยู่ในวัฒนธรรมของเรา” บงจุนโฮเล่าเบื้องหลัง Memories of Murder ที่เขาแปลงเรื่องจริงโหดเหี้ยมมาเป็นหนังระทึกขวัญสุดร้ายกาจ!
กว่าจะกลายมาเป็นคนทำหนังและนักแสดงระดับโลกดังที่เราเห็นในวันนี้ ทั้งคู่และเพื่อนอีกหลายชีวิตในวงการหนังเกาหลีใต้เคยผ่านช่วงเวลาแห่งการต่อสู้อันยากลำบากมาก่อน นี่อาจเป็นอีกหนึ่งข้อยืนยันชัดเจนว่า ความสำเร็จยิ่งใหญ่ของพวกเขาไม่ใช่สิ่งที่ได้มาง่ายดายด้วยความบังเอิญ!
“ผมไม่ใช่คนหล่อคนเท่จึงเหมาะกับคนทำหนังที่ต้องการเล่าเรื่องของคนธรรมดา – หรือพูดอีกอย่างว่า คนที่ดูผิวเผินเหมือนธรรมดา แต่แท้จริงแล้วกำลังต่อสู้กับความเลวร้ายสาหัสอยู่”
ระหว่างที่สามีเดินทางไปทำงานต่างเมือง กัมมีแก้เหงาด้วยกาเยี่ยมเยียนเพื่อนสาวสามคน การใช้เวลาสั้นๆ ร่วมกันของพวกเธอได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของบทสนทนาซึ่งมีตั้งแต่เรื่องราวสัพเพเหระ ไปจนถึงการค้นพบบางสิ่งที่กัมมีไม่เคยใช้เวลาคิดถึง
เรื่องจริงเหลือเชื่อเมื่อสุดยอดคนทำหนังเกาหลีใต้ถูกคิมจ็องอิลลักพาตัวไป “พัฒนาวงการหนังเกาหลีเหนือ”!
สารคดีสุดเดือดพล่านที่พาเราไปดูความรุนแรงในระบบการศึกษา ผ่านเรื่องราวการ “สอบซูนึง” อันเลื่องชื่อของประเทศเกาหลีใต้
สารคดีเรื่องดังจากเกาหลีใต้ เรื่องของชายหนุ่มหญิงสาวผู้พิการที่ต้องรับมือกับข้อจำกัดทางกาย แล้วประคองทั้งความรักและความฝันเคียงข้างกัน
จากเรื่องสั้นของ ฮารูกิ มูราคามิ สู่ผลงานกำกับลือลั่นของ อีชางดง เรื่องราวของความสัมพันธ์แสนประหลาด-หลอกหลอน-ร้อนระอุ ระหว่างหนึ่งหญิง สองชาย และไฟที่แผดเผาทุกอย่าง!