
Iris
ล้วงลึกชีวิตและความคิดสุดเปรี้ยวของ ไอริส แอพเฟล แฟชั่นไอค่อนผู้ยิ่งใหญ่วัย 93 ปี
ชื่อไทย : ชมรมล่าหญิง
103 นาที / สหรัฐอเมริกา / 2015 / กำกับ: เคอร์บี ดิค / เรต : ทั่วไป
1h 43min / USA-UK / 2015 / Director: Kirby Dick / G
20% ของนักศึกษาหญิงในสหรัฐอเมริกา เคยถูกล่วงละเมิดทางเพศในมหาวิทยาลัย
และ…88% ของพวกเธอ ตัดสินใจไม่รายงานให้ผู้บริหารสถาบันรับรู้
เพราะ…”สิ่งที่มหาวิทยาลัยจะปกป้องเป็นสิ่งแรก ไม่ใช่นักศึกษาหรอก พวกเขาปกป้องแบรนด์ตัวเองต่างหาก”
แต่…อย่าคิดว่าพวกเธอและเขาจะต้องเป็นฝ่ายปิดปากเงียบแล้วยอมรับความไม่ยุติธรรมอยู่ร่ำไป… “ในเมื่อสถาบันไม่แยแส เราจึงต้องแสดงให้เห็นว่า เด็กอายุแค่ 20 อย่างเราก็เล่นงานมหา’ลัยอายุ 200 ได้!”
“The Hunting Ground : ชมรมล่าหญิง” หนังสารคดีสุดอื้อฉาวแห่งปีที่ตีแผ่ปัญหาความรุนแรงทางเพศและการปกปิดความจริงในสถาบันอุดมศึกษาทั่วสหรัฐอเมริกา ติดตามการต่อสู้ของนักศึกษาหญิงผู้ไม่ยอมจำนนในฐานะเหยื่ออีกต่อไป และตัดสินใจก้าวออกมาเปิดเผยตัวแม้จะต้องแลกด้วยการถูกดูแคลนจากทั้งเหล่าผู้บริหารและเพื่อนนักศึกษาด้วยกัน …การต่อสู้อย่างกล้าหาญของพวกเธอไม่เพียงสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้คน แต่ยังส่งผลสะเทือนเหล่าสถาบันการศึกษาอันทรงเกียรติครั้งยิ่งใหญ่ ผลงานชิงออสการ์สาขาเพลงประกอบยอดเยี่ยม (Til It Happens to You โดย ไดแอน วอร์เรน และ เลดี้ กาก้า) และผลงานกำกับของ เคอร์บี้ ดิค (ชิง 2 ออสการ์สาขาสารคดียอดเยี่ยม จาก Twist of Faith, The Invisible War)
From the makers of The Invisible War (2012) comes a startling exposé of rape crimes on U.S. college campuses, their institutional cover-ups and the devastating toll they take on students and their families. Weaving together verité footage and first-person testimonies, the film follows the lives of several undergraduate assault survivors as they attempt to pursue – despite incredible push back, harassment, and traumatic aftermath – both their education and justice
รางวัล (Award)
ประเด็นสำคัญในหนัง
สังคมมักคิดว่า ผู้หญิงที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศนั้น เป็นเพราะพวกเธอ “ทำตัวเสี่ยง” ไม่ว่าจะเพราะแต่งตัวโป๊ เข้าไปอยู่ในสถานที่เสี่ยง ไว้ใจคนผิด ไม่ระมัดระวังตัวเอง ฯลฯ แต่หนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นข้อเท็จจริงว่า การถูกล่วงละเมิดทางเพศเป็นภัยร้ายที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน และบุคคลที่สมควรได้รับโทษไม่ใช่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ แต่คือผู้ลงมือกระทำต่างหาก นอกจากนั้น ไม่ใช่แค่ผู้หญิงเท่านั้นที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศได้ แต่ผู้ชายจำนวนมากก็ตกเป็นเหยื่อเช่นกัน
เรามักเข้าใจว่าหากมีนักศึกษาตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงทางเพศแล้ว สถาบันการศึกษาจะเข้ามาให้การช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีและรับมือกับสถานการณ์อย่างยุติธรรม แต่สิ่งที่ปรากฏในหนังกลับเป็นตรงกันข้าม มหาวิทยาลัยหลายแห่งเลือกจะ “ปิดปาก” ผู้ที่ถูกกระทำ กีดกันพวกเขาไม่ให้สามารถร้องเรียนหรือรายงานเหตุการณ์ได้โดยง่าย และหลาย ๆ ครั้งสถาบันการศึกษาก็ทำตัวเป็นคู่ขัดแย้งกับผู้ถูกกระทำเสียเอง
ในหนังเผยข้อมูลว่า การล่วงละเมิดทางเพศส่วนใหญ่ในมหาวิทยาลัยของสหรัฐอเมริกา เกิดจากผู้ถูกกระทำแค่ไม่กี่คน (ผู้ชายในมหาวิทยาลัยไม่ถึง 8% เป็นคนกระทำการล่วงละเมิดทางเพศมากกว่า 90%) แต่เมื่อมหาวิทยาลัยไม่ยอมรับรายงาน ไม่จริงจังกับการสอบสวนและการพิจารณาคดีอย่างเหมาะสม ก็ทำให้ผู้กระทำเหล่านี้มีโอกาสไปทำผิดซ้ำ ๆ อย่างต่อเนื่อง
เป็นที่รู้กันว่า มหาวิทยาลัยในอเมริกานั้นเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ และอธิการบดีรวมถึงคณะกรรมการบริหารสถาบันก็มีหน้าที่ในการปกป้อง “แบรนด์” ไม่ให้เสื่อมเสีย เพื่อให้สถาบันยังสามารถสร้างรายได้มหาศาลต่อไปจากเงินบริจาคของบรรดาศิษย์เก่า นอกจากนั้น หนังยังให้ข้อมูลว่า อีกหนึ่งกิจกรรมที่สร้างกำไรให้แก่สถาบันมากที่สุด ก็คือการแข่งกีฬามหาวิทยาลัย ดังนั้นจึงมีหลายกรณีที่เมื่อนักกีฬาชื่อดังของสถาบันกระทำการล่วงละเมิดทางเพศ แล้วสถาบันไม่สนใจจะพิจารณาความผิดเลย เพราะไม่ต้องการให้เส้นทางนักกีฬาของพวกเขาถูกกระทบกระเทือน
ซับเจ็กต์สำคัญในหนังเรื่องนี้คือนักศึกษาหญิงกลุ่มหนึ่งซึ่งเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลังจากถูกล่วงละเมิดทางเพศและพยายามร้องเรียนไปยังมหาวิทยาลัย นอกจากไม่ได้รับความยุติธรรม พวกเธอยังถูกอาจารย์และเพื่อนนักศึกษาเหยียดหยาม แต่สิ่งเหล่านี้เป็นแรงผลักดันให้พวกเธอตัดสินใจรวมพลังกันแล้วลุกขึ้นสู้ ด้วยการยื่นฟ้องสถาบันของตน รวมทั้งสร้างเครือข่ายทั่วประเทศเพื่อเสริมพลังให้แก่นักศึกษาที่ถูกล่วงละเมิดคนอื่น ๆ ส่งผลให้ในปี 2015 มีสถาบันการศึกษาในสหรัฐอเมริกามากกว่า 100 แห่งที่ถูกรัฐบาลกลางสั่งสอบสวนในประเด็นนี้
ดูจบแล้วคุยอะไรกันดี
1. ก่อนดูหนังเรื่องนี้ คุณเคยรู้มาก่อนมั้ยว่าในมหาวิทยาลัยมีเหตุการณ์นักศึกษาถูกล่วงละเมิดทางเพศมากมาย หากเพิ่งรู้ คุณรู้สึกยังไงบ้าง
2. หลังจากดูหนังแล้ว คุณคิดว่าการล่วงละเมิดทางเพศเกิดจากอะไร และคิดว่าจะป้องกันมันได้อย่างไร
3. คุณกับครอบครัวของคุณมีทัศนคติอย่างไรกับการเข้าเรียนมหาวิทยาลัยดัง ๆ และหลังดูหนังเรื่องนี้แล้ว ความคิดที่เคยมีต่อมหาวิทยาลัยเปลี่ยนไปบ้างไหม อย่างไร
4. ถ้าเกิดเหตุการณ์มีคนถูกล่วงละเมิดทางเพศ คุณคิดว่าสังคมรอบตัวคุณมีวิธีรับมืออย่างไร มีความคิดอย่างไรต่อผู้ถูกกระทำ และมีการช่วยเหลืออย่างไร
5. เหยื่อหลาย ๆ คนในหนังเรื่องนี้ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากอาจารย์หรือผู้บริหารมหาวิทยาลัย หนักกว่านั้นคือหลายกรณีกลับโดนดูถูกและกลั่นแกล้งด้วย คุณเห็นแล้วรู้สึกอย่างไร คุณอยากให้มหาวิทยาลัยมีปฏิกิริยาอย่างไร
6. ลองนึกถึงสังคมที่คุณอยู่ เคยมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นไหม (ที่ผู้ถูกกระทำกลับตกเป็นฝ่ายถูกเหยียดหยามหรือถูกแกล้งซ้ำอีก)
7. ในหนัง เราได้เห็นว่าเหตุผลหนึ่งที่หลาย ๆ มหาวิทยาลัยไม่ยอมช่วยผู้ถูกกระทำ แถมยังหนุนหลังผู้กระทำด้วย ก็คือเรื่องของธุรกิจ (ห่วงเงินบริจาค ห่วงชื่อเสียง) คุณคิดว่ามหาวิทยาลัยจะมีวิธีที่ดีกว่านี้ได้อย่างไรบ้าง ในอันจะรักษาชื่อเสียงของสถาบันพร้อม ๆ กับปกป้องนักศึกษาและรักษาความถูกต้องให้ได้ด้วย
8. ผู้ถูกล่วงละเมิดทางเพศหลาย ๆ คนไม่กล้าเล่าเรื่องของตัวเองให้พ่อแม่ฟัง คุณคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ พ่อแม่ควรทำตัวอย่างไรเพื่อให้ลูกพูดคุยด้วย
9. ถ้าคุณมีเพื่อนที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ คุณจะบอกเพื่อนว่าอย่างไร จะช่วยพวกเขาอย่างไรได้บ้าง

ล้วงลึกชีวิตและความคิดสุดเปรี้ยวของ ไอริส แอพเฟล แฟชั่นไอค่อนผู้ยิ่งใหญ่วัย 93 ปี

ชีวิตอันแสนมหัศจรรย์ของ ดร.รูธ เวสต์ไฮเมอร์ ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่เป็นผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในสงครามโลกครั้งที่ 2 และกลายมาเป็นผู้บุกเบิกรายการ “ตอบปัญหาทางเพศ” ให้กับสื่อวิทยุและโทรทัศน์ในอเมริกา

[fusion_builder_container

ในแวดวงอาชีพด้าน STEM ของสหรัฐอเมริกา มีบุคลากรผู้หญิงอยู่ไม่ถึง 1 ใน 4 และมีผู้หญิงผิวดำแค่ 1 ใน 10 แม้แต่ในวงการวิทยาศาสตร์ที่ยึดถือ ‘ความเป็นกลาง’ เป็นหัวใจสำคัญ ก็ยังเต็มไปด้วยอคติที่ฝังรากลึกมายาวนานนับร้อยปี

จากหมู่บ้านในโคราช สู่พัทยา สมหมายได้พบ “นีลส์” ชายวัยกลางคนชาวเดนมาร์กผู้ยอมรับว่า เขามาเพื่อเก็บเกี่ยวความสุขจากการท่องเที่ยว แต่สิ่งที่เขาไม่เคยคาดเดาได้ล่วงหน้าก็เกิดขึ้น เขาตกหลุมรักผู้หญิงคนนี้ ที่กลายมาเป็นภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากของเขาในที่สุด

ครั้งแรกกับเรื่องราวของเดอะบีทเทิลส์จากคำบอกเล่าของเลขาฯ สาวน่ารักผู้อยู่ร่วมเบื้องหลังความสำเร็จ

“วิเวียน เวสต์วูด” โด่งดังก้องโลกในฐานะเจ้าแม่แฟชั่นพังค์ ผู้สุดจะแหกคอกตั้งแต่ด้านงานดีไซน์ ไปยันทัศนคติการใช้ชีวิต และการเป็นแอ็กติวิสต์ตัวเจ็บ แต่นี่คือหนังเรื่องแรกที่จะบอกเล่าการต่อสู้ทุกด้านอย่างแท้จริง ของหนึ่งในไอค่อนผู้ทรงอิทธิพลแห่งยุคสมัยคนนี้!
นี่คือ 3 เรื่องราวความสัมพันธ์อันสลับซับซ้อนของมนุษย์ที่ถูกบอกเล่าผ่าน “เหตุบังเอิญ” ซึ่งดูเหมือนจะดำเนินไปตามลิขิตแห่งโชคชะตา ในหลายชีวิตที่ล้วนเกี่ยวข้องกับ “ตัวตน” และ “ความรัก”

เรื่องราวแสนบันดาลใจของฮาร์วีย์ มิลค์ นักการเมืองเจ้าเสน่ห์ผู้ต่อสู้เพื่อสิทธิอันเท่าเทียมของเพื่อนมนุษย์จนต้องแลกด้วยชีวิต
สำหรับผู้หญิงจำนวนมากในฟิลิปปินส์ การไปทำงานเป็นคนรับใช้ในต่างประเทศคือทางออกของชีวิตที่ขัดสน และในอันจะบรรลุซึ่งเป้าหมายนั้น พวกเธอจะต้องทุ่มเทให้แก่การฝึกฝนใน “โรงเรียนแม่บ้าน” ซึ่งมีอยู่อย่างแพร่หลายในประเทศ

ในวัย 85 ปี รูธ เบเดอร์ กินส์เบิร์ก ผู้พิพากษาศาลฎีกาแห่งสหรัฐอเมริกา ได้สร้างตำนานการต่อสู้มายาวนาน แต่ชีวิตหนหลัวของเธอกลับยังไม่มีใครรู้มากนัก
แม้เกาหลีใต้จะมีภาพลักษณ์เป็นสังคมร่ำรวยและทันสมัย แต่ยังคงถือเป็นเรื่องน่าอับอายอย่างรุนแรงหากผู้หญิงตั้งท้องโดยยังไม่ได้แต่งงาน นั่นเป็นเหตุผลให้เด็กสาวจำนวนมากต้องออกจากระบบการศึกษาและถูกส่งตัวไปอยู่ในศูนย์พักพิงเพื่อปิดบังการตั้งครรภ์ไว้เป็นความลับไม่ให้เพื่อนฝูงญาติมิตรรู้
Documentary Club is a group of film lovers dedicated to creating diverse spaces in Thailand for alternative films, especially documentaries. We do this by distributing films through various channels, organizing film screenings, hosting film festivals, and arranging discussion forums, in collaboration with partners from both the film industry and social sectors across the country.
Movies Matter Co.,Ltd.
Bangkok, Thailand