แผ่นหินบัญญัติ 10 ประการ โบสถ์ซาตาน และโดนัลด์ ทรัมป์!

บัญญัติ 10 ประการหรือ Ten Commandments คือคำสอนจากคัมภีร์ฮีบรูและสลักไว้บนแผ่นหินสองแผ่น บัญญัตินี้ถูกนำมาใช้ในความเชื่อทางศาสนาคริสต์ด้วย และมีการกระจายติดตั้งหินสลักเหล่านี้ไปตามเมืองใหญ่ๆ ในสหรัฐฯ อย่างเท็กซัส, โอกลาโฮมา และอาร์คันซอ ซึ่งนำมาสู่การตั้งคำถามและเป็นประเด็นสำคัญในสารคดี Hail Satan? (2019)

ในอาร์คันซอนี่เองที่เกิดเรื่องชวนเหวอขึ้น เพราะหลังจากหน่วยงานราชการของอาร์คันซอนำแผ่นหินนี้มาตั้งที่ใจกลางเมืองอาร์คันซอเมื่อปี 2017 ยังไม่ทันข้ามวัน แผ่นหินบัญญัติ 10 ประการที่ว่านี้ก็เป็นอันต้องพังทลายลงด้วยกระทาชายนาม ไมเคิล เทต รีด วัย 32 ปีที่ขับรถเข้าชนแผ่นหินแกรนิตแหลกเป็นเม็ดทราย!

อย่างไรก็ตาม มีความพยายามจะตั้งแผ่นหินขึ้นมาอีกครั้งกลางปี 2018 และนี่เองที่เป็นเหตุให้โบสถ์ซาตานตั้งคำถามกับประเด็นนี้อย่างหนักหน่วง ด้วยการเรี่ยไรระดมทุนสร้างรูปหล่อบรอนซ์บาโฟเมต (Baphomet) แล้วเอามาตั้งในที่สาธารณะกับเขาบ้างเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความหลากหลายทางความเชื่อและศาสนา หากแต่ถูกทางการอาร์คันซอปัดตกเนื่องจากการจะสร้างอนุสาวรีย์บาโฟเมตได้นั้น “จำเป็นต้องมีข้อกฎหมายรองรับ” เสียก่อน นำมาสู่การตั้งคำถามชวนหัวร้อนว่า ทีแผ่นหินบัญญัติ 10 ประการนั้นแทบไม่จำเป็นต้องมีกฎหมายมารองรับ (แถมรัฐยังเป็นตัวตั้งตัวตีในการจัดวางด้วย) แต่ถึงอย่างนั้น ฝั่งโบสถ์ซาตานก็ไม่ยอมแพ้ด้วยการลอบสร้างอนุสาวรีย์บาโฟเมตไว้ใจกลางเมือง (จนได้) ในเดือนสิงหาคม

เหล่าผู้สนับสนุนกลุ่มโบสถ์ซาตานในการเดินขบวนเพื่อเสรีภาพทางศาสนาที่ลิตเติลร็อก อาร์คันซอ เดือนสิงหาคม

และราวกับเป็นการราดน้ำมันลงกองไฟเมื่อ เจสัน ราเพิร์ต วุฒิสมาชิกให้สัมภาษณ์ว่าตัวเขานั้น “เคารพสิทธิเสรีในการแสดงออกของทุกคนภายใต้สิทธิการแสดงออกขั้นพื้นฐาน (the First Amendment) นะครับ แต่คงต้องรอจนกว่าเป็ดจะจมน้ำแหละกว่าจะถึงวันที่อนุสาวรีย์อัปลักษณ์นั่นจะได้มาตั้งอยู่แบบถาวรที่ใจกลางเมืองอาร์คันซอของเรา”

มินำซ้ำ ท่าทีการเรียกร้องของชาวโบสถ์ซาตานยังถูกสหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกัน (American Civil Liberties Union – ACLU) วิเคราะห์ว่าการพยายามสร้างบาโฟเมตขึ้นมาต่างหากที่ละเมิดสิทธิการแสดงออกขั้นพื้นฐาน และละเมิดข้อห้ามทางศาสนาของรัฐอาร์คันซอด้วยอีกต่างหาก!

นั่นจึงเป็นเหตุให้ ลูเซียน กรีฟส์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งโบสถ์ซาตานออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เหตุใดพวกเขาจึงมองว่าท่าทีของรัฐต่อแผ่นหินดังกล่าวมันเป็นปัญหา… เพราะมันสะท้อนว่า ศาสนาคริสต์กำลังจะเป็นหนึ่งเดียวกันกับรัฐ ที่อยู่ภายใต้การบริหารของโดนัลด์ ทรัมป์ และหากปล่อยไว้แบบนี้ เป็นไปได้อย่างมากทีเดียวที่ความเชื่ออื่นๆ อันหลากหลายในสหรัฐฯ จะถูกกีดกันออกไปช้าๆ จากรัฐเอง

“สิ่งที่น่ากลัวคืออะไรรู้ไหม คือการที่ตอนนี้เราอยู่ในประเทศที่ทรัมป์ปกครอง และแน่ชัดว่าเขาสนับสนุนสหรัฐฯ อยู่ภายใต้ระบอบเทวาธิปไตย (Theocracy) โดยพระเยซูน่ะ” กรีฟส์ว่า เขาหมายถึงท่าทีเข้าข้างศาสนาคริสต์ศาสนาอย่างชัดเจนของพรรครีพับลิกัน “เสรีภาพทางความเชื่อของเราสุ่มเสี่ยงอย่างมาก นี่แหละที่ผมจะบอกล่ะ

“หลังการเลือกตั้งที่ทรัมป์ชนะ มีคนเข้ามาหาเราเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยล่ะ ทั้งที่จริงๆ เราสร้างโบสถ์นี้อย่างจริงจังและถูกต้องตั้งแต่ยุคโอบาม่าแล้ว แต่ดูเหมือนคนจะมองเป็นเรื่องขำๆ มากกว่า ก่อนนี้เคยมีคนเข้ามาถามเราเหมือนกันว่าเราจะไปมีปัญหาอะไรนักกับแผ่นหินบทบัญญัติ 10 ประการในที่สาธารณะ จนตอนนี้ ผมว่าพวกเขาน่าจะเริ่มตระหนักได้แล้วว่าแผ่นหินพวกนั้นไม่ได้เป็นแค่สัญลักษณ์ของชาตินิยมธรรมดาๆ ทั่วไปแล้วน่ะ!”