Inspiring Asia Micro Film Festival 2025 : Inspiring Thailand
“สุขภาพจิตเยาวชน” เป็นหนึ่งในปัญหาท้าทายเร่งด่วน 1 ใน 5 ของคนหนุ่มสาวทั่วโลกประสบความวิตกกังวล และเกือบ 1 ใน 4 แสดงอาการของภาวะซึมเศร้า หลายคนต้องต่อสู้ท่ามกลางความเงียบงัน เผชิญกับความโดดเดี่ยวทางอารมณ์ แต่ปัญหานี้กลับถูกมองข้ามในเอเชียทุกวันนี้และการเข้าถึงการดูแลก็ยังไม่เท่าเทียมกันทั่วทั้งภูมิภาค
Inspiring Asia Micro Film Festival 2025 : Inspiring Thailand จากความร่วมมือของ Li Foundation, Rockefeller Brothers Fund, Asia Philanthropy Circle, ECCA Family Foundation และ Documentary Club ขอเชิญชวนนักเรียนนักศึกษา บุคคลทั่วไป คนทำหนัง และองค์กรเพื่อสังคม สร้างสรรค์ผลงานในธีม “สุขภาพจิตเยาวชน” (Youth Mental Well-Being) ภายใต้แนวคิด “เพื่อให้เห็น: เรื่องราวที่ส่องสว่าง และแนวทางที่เสริมพลัง” โดยใช้หนังสั้นและโครงการเพื่อสังคมมาเป็นสื่อกลางในการสร้างผลกระทบวงกว้าง
โครงการนี้เปิดรับงาน+ตัดสินรางวัล 2 สาขา ได้แก่
1. Best Micro Film Award หนังสั้นยอดเยี่ยม
มอบแก่ทีมคนทำหนัง เพื่อยกย่องความเป็นเลิศในแง่การเล่าเรื่อง การถ่ายทํา และการแสดงออกถึงธีม “สุขภาพจิตเยาวชน”
รายละเอียดการส่งหนัง :
– ไม่จำกัดประเภท (สารคดี, ฟิกชั่น, แอนิเมชั่น, หนังทดลอง, ฯลฯ)
– ความยาว: 2-7 นาที (แนะนําที่ 5 นาที)
– รูปแบบ: MP4 / MOV / AVI
– อัตราส่วนภาพ: 16:9 ไวด์ด์สกรีน – 720p / 1080p / 4K
– ขนาดไฟล์: 100MB – 5GB
– ภาษา: ไม่จํากัด แต่ภาพยนตร์ที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษ ต้องมีคําบรรยายภาษาอังกฤษ
– แนบภาพโปสเตอร์ (แนวนอน 1 ภาพ, แนวตั้ง 1 ภาพ) + ภาพนิ่งความละเอียดสูง (อย่างน้อย 3 ภาพ)
– หมดเขต 15 สิงหาคม 2568
รางวัล
– หนังชนะเลิศ : 80,000 บาท
– หนังรองชนะเลิศ : รางวัลละ 40,000 บาท (อาจมีหลายรางวัล)
– หนังขวัญใจคนดู : 40,000 บาท
– Young Filmmaker Award (สำหรับคนทำหนังที่อายุไม่ถึง 15 ปี) : 40,000 บาท
*หนังที่ได้รางวัล จะได้เข้าสู่การแข่งขันหลักที่สิงคโปร์ ลุ้นชิงรางวัลใหญ่กว่า 1 ล้านบาท!
2. Best Project Award โครงการเพื่อสังคมยอดเยี่ยม
มอบแก่โครงการขององค์กรไม่แสวงหาผลกําไร หรือองค์กรเพื่อสังคม ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับ “สุขภาพจิตเยาวชน” และส่งผลกระทบเด่นชัด
▪️การส่งงาน :
– ส่งหนังสั้นความยาว 2-7 นาทีที่เล่าเรื่องราวของโครงการ (*หนังจะได้เข้าร่วมชิงรางวัลสาขา Best Micro Film Award ด้วยโดยอัตโนมัติ / ดูรูปแบบไฟล์หนังที่ต้องส่งได้ในรายละเอียดของรางวัล Best Micro Film Award)
– รายละเอียดของโครงการ และข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรผู้ดำเนินโครงการ
– หมดเขต 15 สิงหาคม 2568
รางวัล :
– โครงการชนะเลิศ : 160,000 บาท
– โครงการรองชนะเลิศ : รางวัลละ 80,000 บาท (อาจมีหลายรางวัล)
*โครงการที่ได้รางวัล จะได้เข้าสู่การแข่งขันหลักที่สิงคโปร์ ลุ้นชิงรางวัลใหญ่กว่า 3 ล้านบาท!
การแข่งขันแบ่งเป็น 2 รอบ
1. รอบแรก ระดับประเทศไทย Inspiring Thailand
ส่งผลงานได้ถึง 15 สิงหาคม 2568 ผู้เข้ารอบจะได้เข้าร่วมงานฉายและพิธีมอบรางวัลที่ไทยในเดือนกันยายน เพื่อลุ้นเงินรางวัลรวมเกือบ 1 ล้านบาท
2. รอบชิงชนะเลิศ Inspiring Asia ที่สิงคโปร์
ผลงานเข้ารอบจากไทย จะได้ไปร่วมงาน “รอบกึ่งชิงชนะเลิศ” ที่สิงคโปร์ในวันที่ 10 ต.ค. และหากได้เข้า “รอบชิงชนะเลิศ” ก็จะได้ร่วมงานในวันที่ 25 ต.ค. ด้วยเพื่อลุ้นรางวัลสูงสุด (สาขา Best Micro Film Award กว่า 1 ล้านบาท และ Best Project Award กว่า 3 ล้านบาท)
รายชื่อผู้ชนะรางวัลของ Inspiring Thailand
ผู้ชนะสาขา Best Project Award รางวัลหนังสั้น+โครงการเพื่อสังคมยอดเยี่ยม
- รางวัลชนะเลิศ (160,000 บาท)
Quiet Legacy (มรดกเงียบ) (2025 / 6.56 นาที)
จากโครงการ ‘ส่งต่อใจ: ส่งต่อพื้นที่ปลอดภัยด้วยความเข้าใจ’ โดย สมาคมนักจิตวิทยาคลินิกไทย
ผู้กำกับ-โปรดิวเซอร์: กุลวดี ทองไพบูลย์ / โปรดิวเซอร์: กุลกานต์ ชนะกาญจน์-แมมเบอร์
- รางวัลรองชนะเลิศ (80,000 บาท)
When the Bench Hears (2025 / 6.20 นาที)
จากโครงการ ‘ม้านั่งมีหู’ (Bench With Ears) โดย Sati App
ผู้กำกับ-โปรดิวเซอร์: สุธรรม จีระศิลป์
ผู้ชนะสาขา Best Micro Film Award รางวัลหนังสั้นยอดเยี่ยม
- รางวัลชนะเลิศ (80,000 บาท)
We Are Abdullah (2025 / 7.00 นาที)
ผู้กำกับ-โปรดิวเซอร์: วีรพงษ์ สุนทรฉัตราวัฒน์
Survey Film Ahead, เชียงใหม่
- รางวัลรองชนะเลิศ (รางวัลละ 40,000 บาท)
ราตรีวงกต (The Way to Escape from Eternity) (2025 / 4.36 นาที)
ผู้กำกับ-โปรดิวเซอร์: ศิวกร บุญสร้าง
กรุงเทพฯ
It’s Okay to be a Jellyfish (คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ที่จะเป็นแมงกระพรุน) (2025 / 5.30 นาที)
ผู้กำกับ: ยูซึงมิน, สุดารัตน์ สาโรจน์จิตติ / โปรดิวเซอร์: ปฏิภาณ บุณฑริก
Error Brothers, เชียงราย
ผู้ชนะสาขา Young Filmmaker Award รางวัลพิเศษสำหรับคนทำหนังรุ่นใหม่น่าจับตา ไม่เกินระดับมัธยมศึกษา
(รางวัลละ 40,000 บาท)
AWAKENING (2022 / 7.00 นาที)
ผู้กำกับ-โปรดิวเซอร์: บัวริเยท เอี่ยมกมล
โรงเรียนไตรพัฒน์ / ปัจจุบัน: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
Dilettante Serotonin (2025 / 5.07 นาที)
ผู้กำกับ-โปรดิวเซอร์: กานต์พิชชา พงษ์นิล
โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย และโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี, ลพบุรี
ผู้ชนะ Audience Award รางวัลพิเศษ “หนังขวัญใจคนดู” สำหรับหนังสั้นที่ได้รับคะแนนโหวตมากที่สุดจากผู้ชมในวันงานเทศกาล
(40,000 บาท)
In her monologue (2025 / 4.46 นาที)
จากโครงการ Parkjai โดย Global ACT Co., Ltd.
ผู้กำกับ: คะนึงลักษณ์ ใบโพธิ์วงศ์ / โปรดิวเซอร์: ณิชกานต์ ธรมธัช
London School of Economics and Political Science & King’s College London
รายชื่อผลงานเข้ารอบ Semi-Final Round ของเทศกาลหลักจากสิงคโปร์
ในรอบนี้ จะแบ่งออกเป็นหนังสั้น 16 เรื่องสุดท้ายในสาขา Best Micro Film Award และโครงการเพื่อสังคม 9 โครงการสุดท้ายในสาขา Best Project Award ซึ่งผ่านการคัดเลือกมาแล้วโดยคณะกรรมการนานาชาติ จากผู้เข้าชิงในหลากหลายประเทศทั่วภูมิภาคเอเชีย
และก็เป็นเรื่องน่าปลาบปลื้มใจสำหรับชาว Documentary Club และ ECCA Family Foundation ที่ตัวแทนจากเทศกาลระดับประเทศไทย Inspiring Thailand 2025 นั้น สามารถก้าวเข้าสู่รอบนี้ได้เป็นจำนวนมากถึง 5 ทีมด้วยกัน!
ผลงานระดับประเทศไทยที่ผ่านเข้ารอบ Semi-Final Round ในสาขา Best Project Award (หนังสั้น/โครงการเพื่อสังคมยอดเยี่ยม) ของเทศกาลหลักจากสิงคโปร์ (โดยเราเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่สามารถเข้ารอบไปได้ถึง 2 ทีม)
1 ) Teenagers Spin the World (2025 / 7.00 นาที)
จากโครงการ ‘นักสร้างสรรค์สุขภาวะ เพิ่มพลังใจ วัยรุ่นหมุนโลก’ โดย สำนักกิจกรรมกิ่งก้านใบ, อุตรดิตถ์
ผู้กำกับ: ณัฐพร บางเลี่ยม / โปรดิวเซอร์: ทองแสง ไชยแก้ว
2 ) When the Bench Hears (2025 / 6.20 นาที)
จากโครงการ ‘ม้านั่งมีหู’ (Bench With Ears) โดย Sati App, TIMS และ จุดพักใจ
ผู้กำกับ-โปรดิวเซอร์: สุธรรม จีระศิลป์
(หมายเหตุ: เจ้าของโครงการฯ จากแต่ละทีมผู้เข้ารอบในสาขานี้ จะต้องเข้าร่วม Online Pitching ต่อหน้าคณะกรรมการสายหลักเป็นภาษาอังกฤษ ในวันที่ 7 ตุลาคมนี้)
ผลงานระดับประเทศไทยที่ผ่านเข้ารอบ Semi-Final Round ในสาขา Best Micro Film Award (หนังสั้นยอดเยี่ยม) ของเทศกาลหลักจากสิงคโปร์
3 ) AWAKENING (2022 / 7.00 นาที)
ผู้กำกับ-โปรดิวเซอร์: บัวริเยท เอี่ยมกมล
โรงเรียนไตรพัฒน์ / ปัจจุบัน: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
4 ) Butterfly Stages (2025 / 6.40 นาที)
ผู้กำกับ: พลอยนัทชา ยิ้มสาระ / โปรดิวเซอร์: ณัฐชนันท์ พรคำ
ทีม Samatha, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
5 ) It’s Okay to be a Jellyfish (คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ที่จะเป็นแมงกระพรุน) (2025 / 5.30 นาที)
ผู้กำกับ: ยูซึงมิน, สุดารัตน์ สาโรจน์จิตติ / โปรดิวเซอร์: ปฏิภาณ บุณฑริก
Error Brothers, เชียงราย
โดยทุกทีมที่ผ่านเข้ารอบ Semi-Final Round จากทั้ง 2 สาขานี้ ยังคงต้องรอลุ้นผลการตัดสินจากคณะกรรมการสายหลัก เพื่อที่จะได้รับโอกาสในการก้าวเข้าสู่รอบ Grand-Final Round ที่สิงคโปร์ (ประกาศผลภายในวันจันทร์ที่ 13 ตุลาคมนี้)
ซึ่งหากตัวแทนประเทศไทยในสาขาต่าง ๆ สามารถผ่านเข้ารอบดังกล่าวได้ พวกเขาจะต้องออกเดินทางไปยัง “ประเทศสิงคโปร์” และร่วมลุ้นรางวัลใหญ่ในรอบชิงชนะเลิศ (6 หนังสั้น และ 3 โครงการฯ เข้ารอบสุดท้ายจากทั่วเอเชีย) ของงานเทศกาลสายหลัก Inspiring Asia Micro Film Festival 2025 ที่จะถูกจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 25 ตุลาคมที่จะถึงนี้
ผู้ชนะรางวัลรอบ Grand Finals ของ Inspiring Asia Micro Film Festival 2025
ในที่สุด เทศกาลก็มาถึงบทสรุปอันน่ายินดีแล้ว เมื่อทีมหนังสั้น When the Bench Hears โดย สุธรรม จีระศิลป์ และโครงการเพื่อสังคม ‘ม้านั่งมีหู’ (Bench With Ears) โดย Sati App, TIMS และ จุดพักใจ ซึ่งเป็นตัวแทนจากประเทศไทย สามารถคว้ารางวัลใหญ่ในสาขา Best Project Award จากรอบ Grand Finals ของ Inspiring Asia Micro Film Festival 2025 เทศกาลหนังสั้นระดับเอเชียในธีม “สุขภาพจิตเยาวชน” (Youth Mental Well-being) ณ หอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์ โดยครองตำแหน่งชนะเลิศร่วมกับหนังสั้น Light Up และโครงการ Good Mind and Soul จากประเทศมองโกเลีย!
“ตอนแรกที่เห็นข่าวการประกวดโครงการเพื่อสังคมพร้อมหนังสั้นของเทศกาล Inspiring Asia ผมเคยคิดว่าองค์กรเราคงไม่สามารถส่งผลงานได้แน่ ๆ เพราะเราไม่มีศักยภาพหรือทีมงานมากพอในการทำหนังสั้นด้วยตัวเอง” ซันจู-อมรเทพ สัจจะมุนีวงศ์ ผู้ก่อตั้ง Sati App องค์กรเจ้าของผลงาน เล่าย้อนความ “แต่พอเราได้มาเจอกับกลุ่มคนทำหนังอย่าง Ghost Cat Film ที่ทาง TIMS ช่วยประสานมาให้ เราเลยตัดสินใจลองส่งผลงานดู ซึ่งทางทีมทำหนังก็สามารถถ่ายทอดโครงการของเราออกมาได้อย่างดีมาก ๆ ครับ”
“แต่ผมก็ไม่ได้คาดคิดนะ ว่าเราจะมากันได้ไกลขนาดนี้ เนื่องจากในงานเทศกาลทั้งที่ไทยและสิงคโปร์ ยังมีอีกหลายผลงานที่ดีมาก ๆ เราเลยตื่นเต้นกันสุด ๆ ที่สามารถคว้าชัยชนะมาได้ เพราะเราตั้งใจแต่แรกอยู่แล้วว่า อยากจะเผยแพร่โครงการของเราออกไปในวงกว้างให้ได้มากที่สุด เพื่อช่วยให้คนไทยทุกคนสามารถมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นได้ ทำให้คนในสังคมหันมาช่วยเหลือกัน หรือเข้าใจในประเด็นด้านสุขภาพจิตมากขึ้น โดยการนำเอา ‘ชุมชน’ มาเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหานี้ ก่อนที่จะสายเกินไป”
ซันจูยังเล่าถึงช่วงเวลาอันน่าประทับใจที่งานเทศกาลสายหลักของสิงคโปร์ด้วยว่า “ตอนที่ผู้จัดงานประกาศเป็นเซอร์ไพรส์ ว่าทีมไทยได้เป็นผู้ชนะในสาขานี้ร่วมกับมองโกเลีย พวกเราก็ดีใจสุด ๆ ที่ผลงานของเราได้รับการตอบรับจากชาวต่างชาติถึงขนาดนี้ ซึ่งมันสะท้อนให้เห็นว่า ผลงานจากประเทศไทยก็มีศักยภาพในระดับสากลเหมือนกัน แล้วมันก็ยิ่งทำให้เรามีกำลังใจที่จะต่อยอดโครงการ เพื่อร่วมสร้างให้สังคมไทยกลายเป็นสังคมที่หันมารับฟังซึ่งกันและกัน รวมถึงรู้จักลงทุนในการดูแลสุขภาพจิตกันมากขึ้น”
“ทั้งนี้ ผมต้องขอบคุณทั้งทีมงาน Sati App, TIMS, จุดพักใจ, Ghost Cat Film รวมถึง Documentary Club และ ECCA Family Foundation ด้วยครับ ที่ช่วยกันผลักดันให้ผลงานของคนไทย สามารถเดินทางมาได้ไกลจนถึงจุดนี้”
ขณะที่ โอม-สุธรรม จีระศิลป์ คนทำหนังจาก Ghost Cat Film ก็กล่าวว่า “ผมเองก็รู้สึกโชคดีมากที่ได้ร่วมงานกับ Sati App ครับ เพราะคุณซันจูและทีมงานมีความตั้งใจแน่วแน่ในการช่วยเหลือผู้ที่กำลังเผชิญปัญหาด้านสุขภาพจิต การได้เข้ามาทำงานร่วมกันในฐานะ ‘ทีม’ เดียวกัน ทำให้ผมเห็นถึงพลังของความร่วมมือ และความเชื่อมั่นในการลุกขึ้นมาทำสิ่งดี ๆ”
“และผมก็ดีใจมากที่หนังสั้นเรื่องนี้ช่วยพาโครงการที่มีคุณค่าไปคว้ารางวัลใหญ่ได้สำเร็จ มันทำให้คนทำหนังอย่างผมเองมีกำลังใจในการสร้างผลงานต่อไป – ผมหวังว่ารางวัลนี้จะช่วยส่งต่อโอกาสให้โครงการนี้สามารถเติบโต และขยายขอบเขตของการช่วยเหลือไปยังผู้คนในวงกว้างมากยิ่งขึ้นครับ”
อย่างไรก็ดี Documentary Club ยังอยากให้ทุกท่านร่วมติดตามความเคลื่อนไหวของหนังสั้น/โครงการเพื่อสังคมชุดนี้จากเทศกาลระดับประเทศไทย Inspiring Thailand 2025 กันต่อไป เพราะในอนาคตอันใกล้ เราจะพยายามนำเอาผลงานชุดนี้ไปร่วม “สร้างบทสนทนาด้านสุขภาพจิต” กับผู้ชมชาวไทยอย่างแน่นอน!
