
Lee Chang-dong: The Art of Irony
สารคดีที่จะทำให้เราได้รู้จักอีชางดงผ่านหนังทั้ง 6 เรื่องของเขา เรื่องราวที่เขาอยากเล่า โลกที่เขาซึมซับ สัญลักษณ์และสถานที่ต่าง ๆ ที่เขาใช้ ผ่านการอธิบายของอีชางดงและเพื่อนร่วมงานสำคัญตัวจริงเสียงจริง
(เกาหลีใต้ / 1999 / 2 ชั่วโมง 9 นาที / กำกับ: อีชางดง / แสดง: ซอล คยองกู, คิมยอจิน, มุนโซริ)
บนรางรถไฟ ชายวัย 40 นาม ‘ยองโฮ’ พยายามฆ่าตัวตาย…
มันเกิดอะไรขึ้น? หนังพาเราย้อนสู่อดีตของยองโฮผ่านเรื่องราวช่วงต่าง ๆ ในชีวิตของเขา จากเด็กหนุ่มผู้มีอุดมการณ์ สู่การเป็นทหาร นายตำรวจ และนักธุรกิจผู้ขมขื่น ทีละน้อยที่มันเผยให้เห็นว่าเหตุการณ์ประวัติศาสตร์และความรุนแรงทางการเมืองค่อย ๆ หล่อหลอมให้เขากลายมาเป็นชายผู้สิ้นหวังในนาทีสุดท้ายได้อย่างไร
Peppermint Candy (1999) เป็นผลงานกำกับเรื่องที่ 2 ของ อีชางดง และลงหลักปักฐานให้เขากลายเป็นผู้กำกับคนสำคัญของเกาหลีใต้ ด้วยการกวาดรางวัล Grand Bell Awards ทั้งสาขาหนังยอดเยี่ยม, ผู้กำกับ, บทร, นักแสดงนำชายและนักแสดงสมทบหญิงมาครอง
อีชางดงพูดถึงความคิดของเขาเบื้องหลังงานชิ้นนี้ไว้ว่า “แม้เราจะก้าวเข้าสู่สหัสวรรษใหม่แล้ว แต่ดูเหมือนว่าผมคงแก่เกินไปที่จะฝันถึงโลกใหม่ แทนที่จะมองไปข้างหน้าสู่ความเป็นไปได้ในอนาคต ผมกลับเลือกจะเดินทางย้อนกาลเวลาสู่อดีต เพื่อค้นหาว่าอะไรคือลักษณะของยุคสมัยที่ผ่านไปและชีวิตของคนเกาหลีเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง ในหนังเรื่องนี้เราเริ่มต้นที่ปี 1999 แล้วจึงย้อนกลับไป 20 ปี ในปี 1979 เมื่อระบอบเผด็จการสิ้นสุดลง มันเป็นช่วงเวลาแห่งการสังหารหมู่ ความหลงใหล การต่อต้าน การฆ่าตัวตายด้วยการจุดไฟเผาตัวเอง การหักหลังทางการเมือง การปลดปล่อยอย่างบ้าคลั่ง เทศกาล และความเบื่อหน่าย นับตั้งแต่นั้นมา ชีวิตได้เปลี่ยนแปลงไปและสภาพความเป็นอยู่ก็ดีขึ้น แต่คนเกาหลีเราก็ยังคงไม่อาจพบความสุขอยู่นั่นเอง”
(South Korea / 1999 / 2h 9m / Director: Lee Chang-dong / Stars: Sol Kyung-gu, Kim Yeo-jin, Moon So-ri)
Backtracking from his suicide as a broken and depressed man, the film recounts the life of Yong-ho, from his tragic demise to his innocent youth, in reverse order. In between, he is a student, a solider, a police officer and eventually an investor who loses a small fortune in the stock market.
สารคดีที่จะทำให้เราได้รู้จักอีชางดงผ่านหนังทั้ง 6 เรื่องของเขา เรื่องราวที่เขาอยากเล่า โลกที่เขาซึมซับ สัญลักษณ์และสถานที่ต่าง ๆ ที่เขาใช้ ผ่านการอธิบายของอีชางดงและเพื่อนร่วมงานสำคัญตัวจริงเสียงจริง
มิจาอาศัยอยู่กับหลานชายวัยมัธยมในเมืองเล็ก ๆ เธอได้เข้าเรียนวิชากวีนิพนธ์และได้รับโจทย์ให้ทดลองเริ่มเขียนบทกวีเป็นครั้งแรก แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็ต้องเผชิญกับความเป็นจริงอีกบางอย่างซึ่งรุนแรงเกินจินตนาการ และทำให้เธอตระหนักว่าชีวิตอาจไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด
‘ฮงจงดู’ เพิ่งพ้นโทษจากคุกและติดต่อครอบครัวของชายที่ตายเพราะน้ำมือเขา ในบ้านหลังนั้น เขาได้พบ ‘ฮันกงจู’ หญิงสาวที่เป็นอัมพาตเพราะโรคสมองพิการ ท่ามกลางสังคมที่ไม่เข้าใจและครอบครัวที่ไม่ยอมรับ ความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างคนนอกสองคนเริ่มก่อตัวขึ้น
นักเรียนมัธยมปลายถูกโรงเรียนส่งไปฝึกงานเพื่อแลกกับประสบการณ์การทำงาน “ในโลกแห่งความเป็นจริง” …สามเดือนต่อมา เธอฆ่าตัวตาย และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการสืบสวนตีแผ่สภาพแวดล้อมการทำงานที่โหดร้ายในสังคมเกาหลีใต้
งานจำนวนมากที่เราทำกันอยู่ทุกวันนี้จะสูญหายไปภายในเวลาไม่กี่สิบปี เมื่อถึงวันที่เทคโนโลยีและเอไอเข้ามาแทนที่แล้วมนุษย์ไม่มีงานทำ …เราจะมีชีวิตกันต่อไปอย่างไร?
ระหว่างที่สามีเดินทางไปทำงานต่างเมือง กัมมีแก้เหงาด้วยกาเยี่ยมเยียนเพื่อนสาวสามคน การใช้เวลาสั้นๆ ร่วมกันของพวกเธอได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของบทสนทนาซึ่งมีตั้งแต่เรื่องราวสัพเพเหระ ไปจนถึงการค้นพบบางสิ่งที่กัมมีไม่เคยใช้เวลาคิดถึง
เรื่องจริงเหลือเชื่อเมื่อสุดยอดคนทำหนังเกาหลีใต้ถูกคิมจ็องอิลลักพาตัวไป “พัฒนาวงการหนังเกาหลีเหนือ”!
สารคดีสุดเดือดพล่านที่พาเราไปดูความรุนแรงในระบบการศึกษา ผ่านเรื่องราวการ “สอบซูนึง” อันเลื่องชื่อของประเทศเกาหลีใต้
Documentary Club is a group of film lovers dedicated to creating diverse spaces in Thailand for alternative films, especially documentaries. We do this by distributing films through various channels, organizing film screenings, hosting film festivals, and arranging discussion forums, in collaboration with partners from both the film industry and social sectors across the country.
Movies Matter Co.,Ltd.
Bangkok, Thailand